จัดทำโครงการดูแลรักษาจรเข้เลพัง |
อธิบดีกรมประมง ระบุแนวทางการดูแลจระเข้เลพังสมบัติของแผ่นดิน จะไม่นำจระเข้ออกไปจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ประชุม มีมติจัดทำโครงการร่วมดูแลรักษาร่วมกับสวนสัตว์ภูเก็ตเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตสามารถเดินทางไปดูจระเข้ เลพัง ได้อย่างสะดวก
-------------
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 ภูเก็ต ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมงพร้อมด้วย นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ต ,นายไวยพจน์ เครือเสน่ห์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 ภูเก็ต,สพ.ญ.นรีรัตน์ สังขะไชย คณะสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล, ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมแถลงข่าวแนวทางการดูแลจระเข้เลพัง ซึ่งตกเป็นสมบัติของแผ่นดินต่อสื่อมวลชนโดยมีดร. สุทธินี ลิ้มธรรมมหิศร ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการฯ, นายประเทศ ซอรักษ์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย,
ดร.ชุติมา ขมวิลัย กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง, นายธีรวัฒน์ จริตงาม หัวหน้าด่านตรวจสัตว์น้ำจังหวัดภูเก็ต , นายไพศาล สุขปุณพันธ์ เจ้าพนักงานประมงอาวุโส หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต,นายพิชัย สกุลสวน ผู้จัดการสวนสัตว์ภูเก็ต,ข้าราชการเจ้าหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ สื่อมวลชนเข้าร่วม
-------------
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการจระเข้ (เลพัง)ซึ่งได้ตกเป็นสมบัติของแผ่นดิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันที่จะส่งมอบจระเข้เลพังให้สวนสัตว์ภูเก็ตดูแลเพื่อให้จระเข้เลพังยังคงเป็นสมบัติของชาวจังหวัดภูเก็ตต่อไป
สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมา เมื่อทำการจับจระเข้เลพังได้เป็นที่เรียบร้อย ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของจระเข้แล้วซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากที่ใด ดังนั้นจระเข้เลพังที่จับได้จึงตกเป็นสมบัติของแผ่นดิน และตามตัวบทกฎหมาย ซึ่งหากเป็นจระเข้พันธุ์แท้จะต้องปล่อยไปตามแหล่งธรรมชาติแต่หากเป็นจระเข้ลูกผสมกฎหมายมีข้อห้ามปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต้องให้หน่วยงานของภาครัฐเป็นผู้ดูแลต่อไป
-------------
โดยที่ประชุมซึ่งได้มีการหารือกัน หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความรู้สึกของชาวภูเก็ตว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับจระเข้เลพัง ดังนั้น การจะนำจระเข้เลพังไปอยู่ที่อื่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องห่วงใยถึงความรู้สึกของชาวภูเก็ต ประกอบกับทีมสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดลได้เข้ามาตรวจสอบดีเอ็นเอของจระเข้เลพังโดยนำเลือดไปตรวจ DNA ใน 2 กระบวนการ เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งผลการตรวจยืนยันตรงกันว่าจระเข้เลพังเป็นจระเข้ลูกผสม ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าจระเข้เลพังไม่สามารถปล่อยคืนลงสู่จุดเดิมตามธรรมชาติได้ ที่ประชุมได้หารือและลงมติร่วมกันว่าอยากจะให้จระเข้ตัวนี้อยู่ในพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต
-------------
จึงมีข้อสรุปร่วมกันดังนี้ 1.จะไม่นำจระเข้ออกไปจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 2. มีมติร่วมกันที่จะจัดทำเป็นโครงการร่วมดูแลรักษาร่วมกับสวนสัตว์ภูเก็ตเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตสามารถเดินทางไปดูจระเข้ เลพัง ได้อย่างสะดวก
ซึ่งการดำเนินดังกล่าวขอยืนยันว่าจระเข้เลพังยังคงเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดินและการนำไปไว้ในสวนสัตว์ภูเก็ตเพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ต โดยจะมีการทำพิธีส่งมอบให้สวนสัตว์ภูเก็ตไปดูแลเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนธันวาคม 2560ถึงมกราคม2561
ด้านนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การส่งมอบจระเข้(เลพัง) ให้สวนสัตว์ภูเก็ตดูแลเนื่องจากสวนสัตว์มีสถานที่ที่มีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญในการที่จะดูแลได้อย่างเหมาะสม
-------------
นายพิชัย สกุลสวน ผู้จัดการสวนสัตว์ภูเก็ต กล่าวถึง ความพร้อมของสวนสัตว์ภูเก็ตที่จะรับจระเข้ เลพังไปดูแล ว่าทางสวนสัตว์ภูเก็ตรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากจังหวัดภูเก็ต มอบหมายภารกิจในการดูแลจระเข้เลพัง ซึ่งเป็นพระเอกและเป็นขวัญใจของชาวภูเก็ตดังนั้นสวนสัตว์ภูเก็ตจะได้เตรียมสร้างสถานที่ให้จระเข้เลพังได้อยู่อย่างเหมาะสม และพร้อมจะดูแลจระเข้เลพังซึ่งสมบัติของแผ่นดินให้ดีที่สุด
-------------
#บันทึกภูเก็ต #Phuketrecord
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
ความคิดเห็น: คำแนะนำ: HTML จะไม่ถูกแปลง!
ความนิยม: แย่ ดี
ป้อนรหัสในกล่องข้างล่างนี้: