โครงการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา |
พุทธศาสนิกชนชาวภูเก็ต พร้อมใจเข้าวัดฟังธรรม เวียนเทียน ร่วมโครงการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา"วันวิสาขบูชา" วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2561 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม 2561 เวลา 08.00 น. ณ อุโบสถวัดวิชิตสังฆาราม อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ได้จัดโครงการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา"วันวิสาขบูชา" วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2561โดยมีพระครูประคุณสุตกิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวิชิตสังฆาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ , นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต , หัวหน้าส่วนราชการ , ข้าราชการ , เจ้าหน้าที่ , นักเรียน และพุทธศาสนิกชนชาวภูเก็ต เข้าร่วมพิธีสงฆ์ ฟังธรรมเทศนา เพื่อนำแนวทางธรรมะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และร่วมเวียนเทียนรอบอุโบสถวัดวิชิตสังฆาราม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
เนื่องในโอกาสวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา "วันวิสาขบูชา" เวียนมาบรรจบ ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต จึงจัดโครงการในครั้งนี้ขึ้นเพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้เด็ก , เยาวชน และประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา "วันวิสาขบูชา" รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน ประชาชน และเพื่อจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ดีมีคุณธรรม โดยนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยกิจกรรมประกอบด้วย พิธีเวียนเทียน , พิธีเจริญพระพุทธมนต์ , เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 , การแสดงธรรมเทศนา และการถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ , การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความสำคัญของวันวิสาขบูชาและหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญสากลของโลก พร้อมทั้งจัดกิจกรรม Big cleaning Day ตามโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน 7
ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราวคือ เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี
ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น 15ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ 45 ปี พระชนมายุได้ 80 พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน6 ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/ข่าว/ภาพ
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
ความคิดเห็น: คำแนะนำ: HTML จะไม่ถูกแปลง!
ความนิยม: แย่ ดี
ป้อนรหัสในกล่องข้างล่างนี้: