รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต บูรณาการร่วมภาครัฐ เอกชน เดินหน้าพัฒนาศักยภาพแรงงานในธุรกิจท่าเทียบเรือสำราญให้มีทักษะฝีมือ 
วันนี้(9 ส.ค.) ที่ห้องประชุมไวส์เฮ้าส์ โรงแรมโบ๊ทลากูน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา ทิศทางการพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในพื้นที่อันดามันในยุค 4.0 พร้อมเยี่ยมชมบูธกิจกรรมภายในงาน ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 15 หน่วยงานจัดบูธมาแสดงในงานสัมมนาครั้งนี้ และเยี่ยมชมการฝึกอบรมสาขาช่างสีเรือ การสาธิตการฝึกช่างไม้เฟอร์นิเจอร์เรือ และการฝึกอบรมพนักงานประจำท่าเรือ 
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เป็นจำนวน 364,165 ล้านบาท โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด และตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน(ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง) พ.ศ.2561-2564 ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งภาคบริการการท่องเที่ยวแรงงานก่อสร้างและอุตสาหกรรมประมง ประกอบกับปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ตกำลังดำเนินการเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลเรือสำราญและกีฬา มีท่าเทียบเรือ จำนวน 38 แห่ง มีท่าเทียบเรือสำราญ จำนวน 5 แห่ง มีเรือยอร์ชและเรือครูซมาใช้บริการประมาณ 1,500 ลำต่อปี โดยมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันพัฒนาศักยภาพแรงงาน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงแรงงานนายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 โดยการขับเคลื่อนของกระบวนการประชารัฐในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับภารกิจของกระทรวงแรงงาน ในการพัฒนากำลังแรงงานที่อยู่ในวัยทำงาน ให้มีการพัฒนาทักษะฝีมือ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และพัฒนาแรงงานที่ทำงานอยู่แล้ว ให้มีทักษะฝีมือที่สูงขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการแรงงาน โดยอาศัยความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นเครือข่ายในการพัฒนากำลังแรงงานดังกล่าว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญและสร้างรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ กระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ดำเนินการพัฒนาฝีมือแรงงานกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ การบริการด้านสุขภาพกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดยในปี 2561 มีผู้ผ่านการฝึกอบรม จำนวน 3,277 คน และได้บูรณาการร่วมกับบริษัท ภูเก็ต โบ๊ทลากูน จำกัด ดำเนินการพัฒนาศักยภาพแรงงานในธุรกิจท่าเทียบเรือสำราญสาขาอาชีพต่างๆ ได้แก่ ช่างไม้เฟอร์นิเจอร์ ช่างบำรุงรักษาเครื่องยนต์เรือ ภาษอังกฤษสำหรับพนักงานประจำท่าเรือ ช่างสีเรือ ช่างซ่อมไฟเบอร์เรือ และพนักงานประจำท่าเรือ เป้าหมายดำเนินการ จำนวน 100 คน เพื่อยกระดับ ฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
การจัดสัมมนาในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาฝีมือแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการตามทิศทางการพัฒนาในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ไทยแลนด์ 4.0 และวางแผนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน สมาคมและองค์กรวิชาชีพ สถานประกอบกิจการและบุคลากรด้านท่องเที่ยวและหน่วยงานเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงานในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จำนวน 300 คน