ซึ่งการแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้านาคาในวันนี้ ภายในขบวนมีม้าทรงทั้งชาย และหญิงเข้าร่วมคึกคัก ซึ่งต่างก็ใช้อาวุธต่างๆ ที่มีในตำนาน เช่น เหล็กแหลม 5 มณฑล มาทิ่มแทงตามร่างกาย และมีม้าทรงบางคนที่ยังใช้อาวุธที่อยู่นอกตำนาน เช่น มีดดาบ ด้ามคันเบ็ดตกปลา เลื้อยเหล็ก เหล็กแหลมทิ่มแทงตามร่างกายเช่นกัน

ทั้งนี้ พิธีแห่พระ (อิ้วเก้ง) นั้น เป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ โดยมีขบวนธง และป้ายชื่อแห่นำหน้าขบวน จากนั้นเป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไทเปี๋ย หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวตามขั้น และยศของเทพ จากนั้นเป็นขบวนของนิ่วสิ่ว (ฉัตรจีน) ตามด้วยพระเกี้ยวใหญ่ หรือตั๋วเหลี้ยน (เสี่ยงใหญ่) เป็นที่ประทับองค์กิ๋วอ่องไต่เต่ มักใช้ 8 คนหาม และนอกจากนี้ ในขบวนแห่พระจะมีม้าทรงทั้งชาย และหญิงแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการใช้ของมีคม และเหล็กแหลมต่างๆ ทั้งที่อยู่ใน และนอกตำนานทิ่มแทงไปตามร่างกาย ด้วยมีความเชื่อว่า เป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก

อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่านได้รับความสนใจจากประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมชมขบวนแห่พระเป็นจำนวนมาก แม้ว่าตลอดเส้นทางจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีอาคารบ้านเรือน หรือสำนักงานตั้งอยู่ตามเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่านก็ได้มีการตั้งบูชารับขบวนพระ และมีการจุดประทัดต้อนรับด้วย

โดยเส้นทางขาไปเริ่มตั้งแต่ถนนสายตัดใหม่ นาคา-ดาวรุ่ง ต่อเนื่องไปจนถึงสี่แยกสะพานหิน เข้าถนนภูเก็ต ไปปลายแหลมสะพานหิน และบริเวณเส้นทางขากลับ ซึ่งขบวนแห่จะตัดเข้าถนนเส้นตัวเมืองภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับศาลเจ้านั้นคึกคักไปด้วยประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ออกมารอรับขบวนแห่พระ

สำหรับวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.61) เป็นการประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองภูเก็ตของศาลเจ้ากวนเต้กุ้น สะปำ
และศาลเจ้าซำไป่กอง หรือศาลเจ้าบางคู